วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กู้ยืมเงิน

                          พูดถึงลูกหนี้เงินกู้นะคับ เมื่อท่านเป็นหนี้กู้ยืมเงินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของลูกหนี้ถูกต้องแล้ว การที่เจ้าหนี้ผู้ให้กู้ยืมเงินจะฟ้องได้ต่อเมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระหมายความว่าระบุเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอนว่าวันที่เท่าไหร่เดือนอะไร พ.ศ.อะไร ด้วย หากไม่ระบุไว้ เจ้าหนี้จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนและให้เวลาพอสมควร อาจประมาณ หนึ่งเดือน

                          ส่วนการต่อสู้คดีกู้ยืมเงินนั้น เนื่องจากลูกหนี้เงินกู้ไปเอาเงินของเขาไปจริง คงต้องยอมรับ แต่อาจจะสู้ได้ในเรื่องดอกเบี้ยเพราะกฎหมายกำหนดห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (บุคคลธรรมดาทั่ง ๆ ไป ไม่เกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี )  เมื่อท่านถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีกู้ยืมเงิน ทางที่ดี ควรจะไปขอผ่อนชำระหนี้โดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและท่านต้องผ่อนชำระตรงตามเวลาที่กำหนดด้วยไม่เช่นนั้น เจ้าหนี้ก็จะทำการบังคับคดีต่อไป  

                          จะพูดถึงปัญหาในความเป็นจริงนะคับ เมื่อท่านเป็นหนี้กู้ยืมเงินแล้ว เจ้าหนี้ก็จะสั่งให้ท่านเขียนเช็คสั่งจ่ายเงินเพื่อเป็นการชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าวด้วยโดยระบุไว้ในสัญญากู้ด้วยเลยและหากลูกหนี้คนใดเขียนเช็คให้ไปตามที่เจ้าหนี้สั่งมา ผลที่ตามมาคือว่า เมื่อหนี้กู้ยืมเงินถึงกำหนดเจ้าหนี้ก็จะนำเช็คไปเรียกเก็บเงินที่ธนาคารและเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน

                          เจ้าหนี้ก็จะ ฟ้อง ท่านลูกหนี้เงินกู้เป็นคดีอาญาตาม พระราชบัญญัติความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ซึ่งจะมีโทษ เป็นคดีอาญาและอาจจะต้องติดคุกทั้งนี้ก็เพื่อบีบให้ลูกหนี้หาเงินมาชำระหนี้ให้ทั้งหมดโดยเร็ว เป็นการบีบบังคับลูกหนี้ที่ได้ผลเร็วที่สุดเพราะหากไม่ชำระหนี้ก็ต้องติดคุก  ความเห็นส่วนตัว ของท่านที่เป็นลูกหนี้ทั้งหลายในเรื่อง กู้ยืมเงิน ควรคิดให้ดีนะคับเพราะเป็นหนี้เงินกู้ไม่ติดคุก แต่หากเสียรู้เจ้าหนี้ โดยไปเขียนเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้เข้าจากคดีแพ่งธรรมดาทั่วๆไป ก็จะเปลี่ยนเป็นคดีเช็ค(เป็นคดีอาญา) และอาจจะต้องติดคุกหากท่านไม่รีบหาเงินมาชำระหนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น